ทำไมต้องเรียนต่อเยอรมัน?

ระบบการศึกษาของเยอรมนีถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดดเด่นในด้านวิชาสายการแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ามีแบรนด์ระดับโลกมากมายที่มาจากเยอรมนี อย่างเช่น Mercedes Benz, BMW, Porsche, Audi, Volkswagen และแบรนด์ในอุสาหกรรม อื่นๆ อีกมากมาย

ประเทศเยอรมนีเป็นประเทศยอดนิยมสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติ สิ่งที่โดดเด่นของการศึกษาที่เยอรมันคือ “ไม่มีค่าเทอม” (มหาวิทยาลัยรัฐบาล) และมีโอกาสในการทำงานต่อหลังศึกษาจบ รัฐบาลเยอรมนีอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติสามารถอยู่ต่อหลังเรียนจบได้อีก 18 เดือน เพื่อหางานทำ นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการสำหรับการเดินทางโดยขนส่งมวลชน สามารถใช้บริการได้ฟรี ซึ่งสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

7 ขั้นตอน เตรียมตัวสู่การเรียนต่อเยอรมัน ปริญญาตรี

สิ่งที่สำคัญในการศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีคือ “ภาษาเยอรมัน” ถึงแม้ว่าประเทศเยอรมนี จะเปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้ แต่หลักสูตรภาษาอังกฤษก็ยังมีข้อจำกัด ในการเลือกคณะเรียนบางสาขา ข้อได้เปรียบของการได้ภาษาเยอรมัน สามารถเลือกเรียนคณะได้มากกว่า หลักสูตรภาษาอังกฤษนั่นเอง และการใช้ชีวิตที่ประเทศเยอรมนีผู้คนส่วนใหญ่จะใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก

Studienkolleg คือ สถานที่เตรียมความพร้อม สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ที่ต้องเข้าเรียนปรับพื้นฐาน เป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในประเทศเยอรมนี

เรียนต่อเยอรมัน ปริญญาตรี
เรียนต่อเยอรมัน ปริญญาตรี

ตรวจสอบ
วุฒิการศึกษา

การสมัครเข้า Studienkolleg จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา High School 

สำหรับประเทศไทย วุฒิการศึกษา ที่สามารถการสมัครเข้า Studienkolleg ได้คือ

  • Certificate of Vocational Education, Grade 12 หรือ
  • ปวช. หรือ
  • ม. 6

 

เรียนภาษาเยอรมันจนถึงระดับ B2

การเรียนภาษาเยอรมัน ไม่ได้กำหนดว่าต้องเรียนตอนไหน ยิ่งเริ่มเรียนเร็วแค่ไหนก็จะได้เปรียบทางด้านภาษา และไม่กดดันจนเกินไป เพราะถ้าเริ่มเรียนตอนมัธยมศึกษาปีที่ 6 อาจจะมีเวลาน้อยในการเรียนภาษาเพื่อเตรียมตัว ก่อนยื่นสอบเข้า Studienkolleg 

แนะนำให้เรียนภาษาเยอรมัน ระดับ B2 ขึ้นไป

สอบวัดระดับทางภาษา

แต่ละ Studienkolleg จะมีเกณฑ์ตามที่กำหนด โดยส่วนใหญ่ควรผ่านระดับ B2 ขึ้นไป

การสอบวัดระดับภาษาสามารถสอบได้ทุกปี

สมัครเข้าเรียน Studienkolleg

Studienkolleg หรือ Foundation Year ก็เหมือนการเรียน มัธยมปลายเพิ่มอีก 1 ปี แยกเป็นแผนเหมือนเรียนมัธยมปลาย โดยส่วนมากจะแบ่งออกเป็น 4 แผน คือ

  • M – คล้ายแผนการเรียน วิทย์-คณิต
    มุ่งเรียนต่อ สายแพทย์
  • T – คล้ายแผนการเรียน วิทย์-คณิต
    มุ่งเรียนต่อ วิศวกรรมศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์
  • W – คล้ายแผนการเรียนศิลป์-คำนวณ
  • G – สายศิลป์ที่เหลือทั้งหมด

 

การสมัครเข้าเรียน Studeinkolleg แต่ละเทอม รับจำนวนจำกัดประมาณ 50 ที่/เทอม/แผนการเรียน โดยผู้ที่ต้องการเข้าเรียนมาจากทั่วโลก

และการสอบเข้าเรียน Studienkolleg สอบได้แค่มหาวิทยาลัยละ 2 ครั้งเท่านั้น

เรียน Studiengkolleg

เรียน Studiengkolleg ตามแผนที่เลือกตอนสมัครเป็นเวลา 2 เทอม ในการเรียนแต่ละเทอม จะมีการสอบเก็บคะแนน การสอบกลางภาคและปลายภาคเหมือนการเรียนมัธยมปลาย ดังนั้นผู้เรียนจะต้องเรียนให้ผ่านเกณฑ์ ครบทั้ง 2 เทอม

สอบ Final Exam (FSP)

สอบ Final Exam หรือเรียกว่า FSP เป็นการสอบเพื่อจบ Studeinkolleg การสอบ FSP ถือว่าสำคัญมาก เป็นตัวชี้วัดว่าจะได้เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือไม่

ใช้วุฒิ FSP เรียนต่อมหาวิทยาลัย

หลังจากสอบผ่าน FSP แล้ว จะใช้วุฒิ FSP ยื่นเข้าเรียนต่อได้ทุกมหาวิทยาลัยในเยอรมัน

การเตรียมความพร้อมในขั้นตอนต่างๆ สามารถทำได้ไม่ยากเกินไป หากมีความตั้งใจ ทุ่มเท และอดทน 

หากต้องการที่ปรึกษา เพื่อช่วยแนะนำแนวทางการศึกษาต่อเยอรมัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น กับคอร์สการเตรียมความพร้อม เพื่อเรียนต่อเยอรมันระดับปริญญาตรี